Skip to main content

ทำความรู้จักกับ Error ต่างๆใน Google Sheets กันเถอะ

·2 mins

Error ต่างๆใน Google Sheets ที่คุณเห็นใน cell นั้นมีหลายแบบ แล้วแต่ละแบบก็มีความหมายที่แตกต่างกัน วันนี้เรามาลองสังเกต error พร้อมกับหาวิธีแก้กันครับ

#N/A #

คุณจะพบเจอตอนที่คุณใช้คำสั่งหาค่าอะไรสักอย่างใน range แล้วมันไม่มี เช่น

=VLOOKUP("x",B1:B5,1,FALSE)

เมื่อเราพยายามหา “x” ใน B1 ถึง B5 แต่มันไม่มีไง มันเลยฟ้องว่า “Did not find value ‘x’ in VLOOKUP evalation.” ซึ่งมีโอกาศเกิดได้กับทั้ง =QUERY(), =FILTER(), =MATCH() หรือคำสั่งใดๆก็ตามครับที่เป็นการค้นหาค่าจากใน range ที่เรากำหนดแล้วมันมีโอกาศไม่เจอ

แก้ไขโดย #

  • ตรวจดีๆว่าคุณหาใน range ที่ถูกต้องแล้ว บางทีคุณอาจจะกำหนดก็ได้
  • ครอบด้วย =IFERROR() สิครับ เช่นบอกว่า
=IFERROR(VLOOKUP("x",B1:B5,1,FALSE),"ไม่เจอเด้อ")

เพียงเท่านี้เจ้า #N/A ก็จะกลายเป็นคำว่า “ไม่เจอเด้อ” แทน


#DIV/0! #

ใครเรียนคณิตศาสตร์มาน่าจะเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้างเรื่อง ถ้าเอาจำนวนใดๆก็ตามมาหารด้วยศูนย์มันไม่นิยาม หรือไม่มีความหมายทางคณิตศาสตร์ ซึ่งมันก็เป็นเช่นนี้ใน Google Sheets เหมือนกันครับ เช่น

=A2/B3

ถ้าเกิด B3 ของคุณมันดันเป็น 0 ขึ้นมามันก็ต้องฟ้องว่า “Function DIVIDE parameter 2 cannot be zero.” ทันทีสิครับ

แก้ไขโดย #

  • ตรวจดูสูตรของคุณให้ดีว่าผิดหรือเปล่า เอาตัวตั้งมาเป็นตัวหารไหม หรือตรวจสอบข้อมูลที่ได้มาว่าผิดพลาดหรือเปล่าถ้าคุณคิดว่าสูตรของคุณไม่ผิดนะ
  • ครอบด้วย =IFERROR() อีกแล้ว!! เช่นบอกว่า
=IFERROR(A2/B3,"ไม่นิยาม")

เพียงเท่านี้เจ้า #DIV/0! ก็จะกลายเป็นคำว่า “ไม่นิยาม” แทน (หากินง่ายเนอะ)


#VALUE! #

การ บวก ลบ คูณ หาร มันเป็นเรื่องตัวเลขใช่ไหมครับ แต่ถ้าเมื่อไหร่คุณเอา ตัวเลขมาบวกกับตัวอักษรก็เป็นเรื่องสิครับ

=100 + "ฉันเป็นตัวเลขนิ"

=100 + “ฉันเป็นตัวเลขนิ” แน่นอนว่า “ฉันเป็นตัวเลขนิ” มันคือตัวอักษรหลายๆตัวครับ มันเอามาบวกกับ 100 ไม่ได้ โดนฟ้องสิ “Function ADD parameter 2 expects number values. But ’’ is a text and cannot be coerced to a number.”

แก้ไขโดย #

  • ตรวจดูคำสั่งดีๆครับว่าชี้ไปถูก cell หรือเปล่า บางทีเราอาจจะเผลอเลือกเอา cell มาคำนวณผิดช่องก็ได้
  • บางครั้งก็เลี่ยงไม่ได้บ้านเราช่องไหนไม่มีค่าจะชอบขีด “-” มาด้วย เราก็จำเป็นต้องเปลี่ยน “-” ให้เป็น 0 ก่อนนะครับ
  • ครอบด้วย =IFERROR() ยังไม่หยุดอีก
=IFERROR(A1 + B1, "มันบวกกันไม่ได้นะพวกเธอ")

เบื่อหน้า =IFERROR() กันรึยังครับ


#REF! #

เป็นปัญหาจากการอ้างอิงถึง cell ที่ไม่ถูกต้องแล้วทำให้เกิดปัญหา เช่น

=Sheet2!A1

คุณอ้างอิงถึง cell A1 ใน Sheet 2 แต่วันดีคืนดีคุณก็ลบ Sheet 2 ทิ้งไป มันก็จะฟ้องว่า “Unresolved sheet name ‘Sheet2’.”

=A1*A2

คุณอยากหาค่า A1 คูณ A2 แต่คุณกลับใส่คำสั่งนี้ลงใน A2 มันก็เกิดการวนหาคำตอบแบบไม่รู้จบสิ “Circular dependency detected. To resolve with iterative calculation, see File > Spreadsheet Settings.”

=QUERY(A1:B20, "select A where B > 0")

คุณอยากหาว่าตั้งแต่แถวที่ 1 - 20 เนี่ย มันมีแถวไหนที่ B มากกว่า 0 บ้าง โดยใส่คำสั่งนี้ไว้ที่ C1 แต่คุณก็พิมพ์อะไรสักอย่างใส่ไปใน C2 ด้วยเหมือนกัน ปัญหาก็มาสิครับถ้าเกิดคำสั่งนี้เจอแถวที่มี B มากกว่า 0 หลายๆแถว เพราะ C2 ที่ควรจะเป็นที่ให้ผลลัพธ์ของ =QUERY() โดนคุณขวางทางไว้ มันก็ฟ้องสิ “Array result was not expanded because it would overwrite data in C2.”

แก้ไขโดย #

  • ตรวจสอบว่า cell ที่เราอ้างอิงถึงให้ดีว่ามันยังมีตัวตนอยู่ใช่ไหม
  • ดูให้ดีว่า cell ที่เราอ้างถึง ไม่ใช่ cell ที่เรากำลังใส่คำสั่งลงไปอยู่
  • เคลียร์ที่ทางของข้อมูลให้ดี อย่าให้มี cell ไหนมาขวางทางของคำสั่งที่มีโอกาสได้ผลลัพธ์หลายๆแถวหรือหลัก เช่น =QUERY(), =FILTER() หรือแม้แต่ ={} เป็นต้น
  • ครอบด้วย =IFERROR() คิดไม่ออกบอกตัวนี้แหละ เหมือนเป็นคนหนีปัญหายังไงอย่างงั้น

#NAME? #

เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเรียกคำสั่งไม่ถูก หรือเรียกคำสั่งที่มันไม่มีอยู่มันจะโผล่มาเอง เช่น

=VFOOKUP("x",A1:A5,1,FALSE)

ไปเอา VFOOKUP() มาจากไหน โดนสิ “Unknown function: ‘VFOOKUP’.”

แก้ไขโดย #

  • ดูชื่อคำสั่งดีๆครับ บางครั้งเราอาจจะพิมพ์ผิดอย่าง LOOKUP กับ FOOKUP มันก็มีโอกาสผิดกันได้ L กับ F มันอยู่ใกล้กัน (ตรงไหน?)

#NUM! #

เมื่อตัวเลขในคำสั่งมันไม่ถูกต้องมันจะมาหาคุณเอง เช่น การพยายามเอาจำนวนลบไปใส่ใน square root

=SQRT(-1)

เอ่อ!.. คือ Google Sheets ไม่เล่นกับจำนวนจินตภาพนะครับ “Function SQRT parameter 1 value is negative. It should be positive or zero.”

=SMALL({1;2;3;4;5}, 10)

จะหาค่าเล็กที่สุดใน range แต่เราดันกำหนดอะไรที่สูงกว่าที่มันมีซะงั้น =LARGE() ก็เช่นกัน

แก้ไขโดย #

  • เช็คตัวเลขและสูตรของคุณให้ดีครับ ว่ากันด้วยตัวเลขล้วนๆเลยข้อนี้
  • ฝืนใช้ =IFERROR() ครับ แล้วมันจะไม่รบกวนใจคุณ แต่คุณจะไม่ได้อะไรเลย :3

#ERROR! #

เขียนคำสั่งผิดครับ คือ Google Sheets ไม่เข้าใจสิ่งที่คุณเขียนลงไปหลังเครื่องหมาย = นั่น คุณอาจจะลืมอะไรไปสักอย่างหรือว่าใส่อะไรเกินไปนิด เช่น

=SUM(A2:A5

ลืมวงเล็บปิดซะงั้น

="ชื่อ"A1"นามสกุล"A2

ไม่มี & มันก็ไม่รู้นะว่าเราจะเอามาเชื่อมกัน

ความผิดพลาดพวกนี้มันจะฟ้องว่า “Formula parse error.”

แก้ไขโดย #

  • หายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆหายใจออก หลังจากนั้นลบสูตรแล้วค่อยๆพิมพ์ลงไปใหม่ เมื่อกี้มันต้องมีอะไรผิดแน่ๆ

หวังว่าบทความนี้จะช่วยทำให้ทุกคนใจเย็นขึ้นหลังจากเห็น error ใน Google Sheets นะครับ ค่อยๆอ่านสิ่งที่มันฟ้องมาว่าคืออะไรแล้วค่อยๆแก้ไปทีละจุดเพียงเดี๋ยวปัญหามันก็หายไปเองครับ